โรคที่พบบ่อย ในสุนัข เป็นปัญหาสุขภาพ ที่เจ้าของสัตว์เลี้ยง ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง การสังเกตอาการ ตั้งแต่เนิ่นๆ และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกันโรคเหล่านี้ เพื่อให้สุนัขมีสุขภาพที่ดี และอายุยืนยาว โดยในบทความนี้ จะพาไปสำรวจ โรคที่พบบ่อยในสุนัข พร้อมแนะนำวิธีการป้องกัน ที่เจ้าของสามารถ นำไปปฏิบัติได้
โรคภายใน เป็นโรคที่เกิดขึ้น กับระบบภายใน ของร่างกายสุนัข ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการทำงาน ของอวัยวะสำคัญ เช่น ระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด และระบบประสาท
โรคเหล่านี้ อาจไม่สามารถสังเกตเห็น ได้ทันทีจากภายนอก แต่จะส่งผล ต่อสุขภาพโดยรวมของสุนัขอย่างรุนแรง อาการที่อาจบ่งบอก ถึงปัญหาภายใน ได้แก่ ความผิดปกติในการกิน การขับถ่าย การหายใจ หรือพฤติกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป
พยาธิในลำไส้ สามารถทำให้สุนัข มีอาการท้องเสีย อาเจียน น้ำหนักลด และท้องอืด
โรคในระบบทางเดินหายใจ สามารถเกิดได้ จากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
วิธีป้องกัน : ให้สุนัขได้รับวัคซีน ตามกำหนด หลีกเลี่ยงการสัมผัส กับสัตว์ป่วย และรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด
วิธีสังเกตอาการ : สังเกตอาการไอเรื้อรัง จาม น้ำมูกไหล และหายใจลำบาก โรคในระบบทางเดินหายใจ สามารถเกิดได้ จากการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย อาทิเช่น
โรคภายนอก เป็นโรคที่สามารถสังเกตได้ จากภายนอก ของร่างกายสุนัข โดยมักแสดงอาการ ผ่านลักษณะของผิวหนัง ขน หู ดวงตา และอวัยวะภายนอกอื่น ๆ อาการที่พบ อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลง ของสีผิว ผื่นแดง อาการคัน การหลุดร่วงของขน รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ ในบางส่วนของร่างกาย โรคภายนอกที่พบบ่อย ในสุนัข ได้แก่
โรคผิวหนัง (Skin Diseases) โรคผิวหนังในสุนัข สามารถเกิดได้ จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต ตัวอย่างโรคผิวหนัง ที่พบได้บ่อย ได้แก่
การแพ้ (Allergic Dermatitis) สุนัขบางตัว อาจแพ้อาหาร สารเคมี หรือสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง ทำให้เกิดอาการผื่นแดง และคัน
อาการของโรคเรื้อน - จะมีอาการคันอย่างรุนแรง (โดยเฉพาะโรคเรื้อนเปียก) มีผื่นแดง ตุ่มน้ำ และสะเก็ดตามผิวหนัง ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ ผิวหนังหนาตัวขึ้น และมีกลิ่นเหม็น สุนัขจะเลีย หรือกัดผิวหนังบ่อย ๆ วิธีป้องกันคือ อาบน้ำด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ กำจัดเห็บหมัด และไร ด้วยยาหยอด ยาสเปรย์ หรือปลอกคอป้องกัน และควรพบสัตวแพทย์ อย่างสม่ำเสมอ [3]
อาการของโรคหูติดเชื้อ - สุนัขเกาหู หรือส่ายหัวบ่อย มีกลิ่นเหม็นจากหู หูแดง บวม หรือเป็นแผล สุนัขจะมีอาการปวด ไม่อยากให้สัมผัสบริเวณหู วิธีป้องกันคือ ทำความสะอาดหูสุนัขเป็นประจำ ด้วยน้ำยาเช็ดหู สำหรับสุนัข หลีกเลี่ยงการให้น้ำเข้าหู ขณะอาบน้ำ ตรวจเช็กหูสุนัขบ่อย ๆ โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีหูยาว เช่น บีเกิล ค็อกเกอร์สแปเนียล
ลำไส้อักเสบ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส ทำให้สุนัขอาเจียน ท้องเสีย และเบื่ออาหาร ควรให้อาหารที่สะอาด และเหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารบูดเสีย และดูแลความสะอาด ของภาชนะใส่อาหาร
พยาธิในลำไส้
สุนัขสามารถติดพยาธิ จากอาหาร หรือสิ่งแวดล้อม ทำให้ซูบผอม อ่อนเพลีย และมีปัญหาทางเดินอาหาร ควรถ่ายพยาธิ เป็นประจำทุก 3-6 เดือน และหลีกเลี่ยง การให้สุนัขกินของสกปรก
สรุป โรคที่พบบ่อยในสุนัข มีทั้งโรคภายนอก และภายใน การป้องกันที่ดีที่สุด คือการฉีดวัคซีน ดูแลสุขภาพ และพาสุนัข ไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เจ้าของควรให้ความใส่ใจ ในการเลือก อาหารสุนัข และดูแลสุขอนามัย หากสุนัขมีอาการผิดปกติ ไม่ควรรอจนสายเกินไป ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที
อาการที่ควรรีบพาสุนัข ไปพบสัตวแพทย์ทันทีได้แก่ การหายใจลำบาก เช่น หอบเหนื่อย หรือหายใจเสียงดังผิดปกติ อาเจียน หรือท้องเสีย รุนแรงต่อเนื่องนานกว่า 24 ชั่วโมง อาการซึมผิดปกติ ไม่ตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง หรือมีเลือดออกผิดปกติ จากอวัยวะใด ๆ อาการเหล่านี้ อาจบ่งบอกถึงภาวะฉุกเฉิน ทางการแพทย์ ที่ต้องได้รับการรักษา อย่างเร่งด่วน
ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อประเมินสุขภาพ โดยรวมของสุนัข รวมถึงการตรวจหาโรค ที่อาจไม่แสดงอาการ อย่างชัดเจน เช่น โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคเบาหวาน นอกจากนี้ หากสุนัขมีปัญหาสุขภาพ ที่ต้องการการดูแล เฉพาะเจาะจง ควรเพิ่มความถี่ ในการตรวจสุขภาพเป็นทุก 6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้น ตามคำแนะนำ ของสัตวแพทย์
[1] pedigree. การถ่ายพยาธิสุนัขและการรักษาหนอนในสุนัข. Retrieved from pedigree
[2] cuir. (2009-2025). ไข้หวัดใหญ่สุนัข. Retrieved from cuir
[3] utmost. (2023-2025). รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังสุนัข. Retrieved from utmost